วันอังคารที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2560

เกเร...หันเหสู่กีฬา [บทสัมภาษณ์]



เกเร...หันเหสู่กีฬา

อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง จากเด็กมัธยมตอนต้นที่เข้าห้องปกครอง มีเรื่องทะเลาะวิวาท ทำ
มีด ทำระเบิดขายในโรงเรียน พอขึ้นมัธยมปลายแล้วรู้สึกเบื่อๆเรื่องพวกนี้ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง

เหมือนกับคนอื่นเขา ก็เลยหันมาเล่นกีฬาตอน ม.5 คือกีฬายูโด และยูยิตสู


ตอนแรกที่ฉันได้รับหัวข้องานชิ้นนี้มาสารภาพเลยว่า คิดหนักมาก ไม่รู้จะไปสัมภาษณ์ใครดี ไม่กล้าติดต่อไม่กล้าเข้าไปพูดคุย แต่สุดท้ายก็สามารถหาผู้ที่จะมาให้สัมภาษณ์ได้ในที่สุด
เขาคือ คุณณรงค์พร สังข์ขา หรือต้นน้า เป็นนักศึกษาและนักกีฬายูยิตสู(ศิลปะการต่อสู้)คนหนึ่ง ของมหาวิทยาลัยราชฎัชสวนสุนันทา และถึงแม้เขาจะไม่ใช่บุคคลที่มีชื่อเสียง แต่ชีวิตของเขาน่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งเขาจะมาพูดคุยกับเราว่าจากเด็กเกเรคนหนึ่ง ทำไมถึงหันหน้าเข้าสู่กีฬาและบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขากันค่ะ

เริ่มเล่นกีฬานี้ได้อย่างไรคะ?
            ก็รู้สึกอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง จากเด็กมัธยมตอนต้นที่เข้าห้องปกครอง มีเรื่องทะเลาะวิวาท ทามีดทาระเบิดขายในโรงเรียน(อันนี้เรื่องจริง) พอขึ้นมัธยมปลายแล้วรู้สึกเบื่อๆเรื่องพวกนี้ ก็อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้างเหมือนกับคนอื่นเขา ก็เลยหันมาเล่นกีฬาตอน ม.5 คือกีฬายูโด และยูยิตสู

ตอนนี้กำลังเรียนอะไร อยู่ที่ไหนคะ?
ปัจจุบันกาลังเรียนปริญญาตรีครับ แขนงวิชาการบริหารรัฐกิจ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชฎัชสวนสุนันทา

เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ยังเล่นกีฬานี้อยู่หรือเปล่า?
ใช่ครับ ยังเล่นอยู่และใช้โควตานักกีฬาเข้าสวนสุนันทา ก็เข้ามาเล่นและแข่งขัน ทาผลงานให้กับมหาวิทยาลัยครับ

ซ้อมหนักไหมคะ?
ก็มีบางช่วงที่ใกล้แข่งแมตช์ใหญ่ๆ แต่บางทีโค้ชก็อะลุ่มอล่วยให้บ้าง ให้ยืดกล้ามเนื้อ ลดอาการเจ็บปวดจากการซ้อม แต่ก็มีการซ้อมในทุกๆวันหนักบ้างเบาบ้าง เพื่อให้กล้ามเนื้ออยู่ตัวและฝึกให้ร่างกายให้พร้อมสาหรับการแข่งขันอยู่เสมอ

รู้สึกยังไงบ้างตั้งแต่ที่ได้เล่นกีฬานี้มา?

              มันมีความสุขกับหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง เช่นเจครอบครัวใหม่ เจอเพื่อนใหม่ในการแข่งขัน และภูมิใจในตัวเองมี่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ อยากจะขอบคุณอาจารย์ที่ทำให้ได้ดีมาถึงทุกวันนี้ ถ้าผมไม่มีอาจารย์ผมก็คงจะไม่มีผมวันนี้ (ยิ้ม)


ถึงตอนนี้คุณมีเทคนิคการแบ่งเวลาเรียนกับเวลาซ้อมอย่างไรบ้างคะ?
พยายามจัดเวลาเรียนให้ถูกต้อง ว่าเขานัดซ้อมกี่โมง วันไหนบ้าง ตรงกับเวลาเรียนหรือเปล่า เช่นโค้ชนัดซ้อมห้าโมงถึงสองทุ่ม เราก็มาดูตารางเรียนว่าวันไหน ถ้าเรามีเรียนช่วงค่าไปทับกับเวลาซ้อมเราก็ต้องแจ้งโค้ช แต่ถ้าวันไหนไม่มีเรียน ช่วงบ่ายที่ว่างก่อนซ้อมก็จะไปวิ่งหรือเข้าฟิตเนส พอถึงห้าโมงก็เข้ามาซ้อมที่เบาะตามปกติ (ยิ้ม)


แม้ว่าคนเราจะเดินผิดทางไปบ้าง ออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเราเติบโตขึ้น เราจะรู้เองว่าอะไรควร ไม่ควรและในอนาคตเมื่อมองย้อนกลับมาเราจะรู้สึกได้เลยว่าสิ่งที่เราคิดว่าเท่ ดูโก้เก๋มันไร้สาระมาก ทาไมตอนนั้นถึงทาแบบนั้นนะ
เหมือนกับคุณต้นน้าที่เขาสามารถเดินกลับเข้ามาในเส้นทางได้ และเริ่มหาความสามารถของตัวเอง ซึ่งก็คือทางด้านกีฬาต่อสู้นั่นเอง เขามีความฝัน และเขาก็ทาตามฝันนั้นอยู่ทุกวัน ฝึกซ้อมร่างกายอย่างหนัก เขาได้เดินเข้าใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวัน

...เมื่อคุณมีฝัน ก็รีบทามัน อย่างทาให้ฝันนั้นเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่จงทามันให้เป็นความจริง… 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น